การใช้ระบบกรองตะแกรงโมเลกุลในหน่วยแยกอากาศ

อากาศที่ถูกอัดโดยเครื่องอัดอากาศใช้อะลูมินาที่กระตุ้นการดูดซับเฉพาะและตะแกรงโมเลกุลเพื่อกำจัดน้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ อะเซทิลีน ฯลฯ ในฐานะตัวดูดซับ ตะแกรงโมเลกุลสามารถดูดซับก๊าซอื่น ๆ อีกมากมาย และมีแนวโน้มที่ชัดเจนในกระบวนการดูดซับ ยิ่งขั้วของโมเลกุลที่มีขนาดใกล้เคียงกันมีขนาดใหญ่เท่าใด ตะแกรงโมเลกุลก็จะดูดซับได้ง่ายขึ้นเท่านั้น และยิ่งโมเลกุลไม่อิ่มตัวมีขนาดใหญ่เท่าใด ตะแกรงโมเลกุลก็จะดูดซับได้ง่ายขึ้นเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะดูดซับ H2O, CO2, C2, H2 และสิ่งสกปรก CnHm อื่นๆ ในอากาศ นอกจากความสามารถในการดูดซับของตะแกรงโมเลกุลที่เกี่ยวข้องกับชนิดของสารดูดซับแล้ว แต่ยังเกี่ยวข้องกับความเข้มข้นของสารดูดซับและอุณหภูมิด้วย ดังนั้นอากาศอัดก่อนเข้าสู่ระบบการทำให้บริสุทธิ์ แต่ยังผ่านหอระบายความร้อนด้วยอากาศเพื่อลดอุณหภูมิของ อากาศก่อนเข้าสู่ระบบฟอกอากาศ และปริมาณน้ำในอากาศสัมพันธ์กับอุณหภูมิ ยิ่งอุณหภูมิต่ำ ปริมาณน้ำก็จะยิ่งลดลง ดังนั้นระบบฟอกอากาศจะผ่านหอระบายความร้อนด้วยอากาศก่อนเพื่อลดอุณหภูมิของอากาศ จึงช่วยลดปริมาณน้ำในอากาศตะแกรงโมเลกุลที่เปิดใช้งาน
ก๊าซอัดจากหอทำความเย็นอากาศจะถูกป้อนเข้าสู่ระบบการทำให้บริสุทธิ์ ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยตัวดูดซับสองตัว เครื่องทำความร้อนด้วยไอน้ำ และเครื่องแยกก๊าซเหลว ตัวดูดซับตะแกรงโมเลกุลเป็นโครงสร้างเตียงสองชั้นแนวนอน ชั้นล่างเต็มไปด้วยอลูมินาที่เปิดใช้งาน ชั้นบนเต็มไปด้วยตะแกรงโมเลกุล และผู้ดูดซับทั้งสองสลับการทำงาน เมื่อตัวดูดซับตัวหนึ่งทำงาน ตัวดูดซับอีกตัวจะถูกสร้างขึ้นใหม่และเป่าเย็นเพื่อใช้งาน อากาศอัดจากหอทำความเย็นอากาศจะถูกกำจัดออกโดยตัวดูดซับน้ำ CO2 และสิ่งสกปรกอื่นๆ เช่น CnHm การสร้างตะแกรงโมเลกุลประกอบด้วยสองขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือไนโตรเจนสกปรกจากเครื่องแยกส่วนอากาศ ซึ่งได้รับความร้อนจากเครื่องทำความร้อนด้วยไอน้ำจนถึงอุณหภูมิการสร้างใหม่ ใส่ตัวดูดซับเพื่อสร้างความร้อนใหม่ แยกวิเคราะห์น้ำที่ถูกดูดซับและ CO2 เรียกว่าขั้นตอนการให้ความร้อน อีกอย่างคือไนโตรเจนสกปรกที่ไม่ผ่านเครื่องทำความร้อนไอน้ำ เป่าตัวดูดซับอุณหภูมิสูงไปที่อุณหภูมิห้อง จะแยกน้ำที่ถูกดูดซับและ CO2 ออกจากตัวดูดซับ เรียกว่าระยะพัดเย็น ไนโตรเจนเสียที่ใช้ในการทำความร้อนและการเป่าเย็นจะถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศผ่านเครื่องเก็บเสียงแบบเป่าลม


เวลาโพสต์: 24 ส.ค.-2023